” เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า
เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง”
ประวัติ
จังหวัดเพชรบูรณ์มีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในเขตภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย ลักษณะทางกายภาพนั้นเป็นพื้นที่ราบลุ่มแบบท้องกระทะ ประกอบด้วยเนินเขา ป่า และที่ราบเป็นตอนๆสลับกันไป พื้นที่มีลักษณะลาดชันจากเหนือลงไปใต้ ตอนเหนือมีทิวเขาสูง ตอนกลางเป็นพื้นที่ราบและมีเทือกเขาขนาบกันไปทั้งสองข้างมีลักษณะเป็นรูปเกือกม้า[๑] มีแม่น้ำป่าสักเป็นแม่น้ำสายสำคัญโดยไหลจากจังหวัดเลย เพชรบูรณ์ ผ่านไปสู่จังหวัดลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ตามลำดับ จึงส่งผลให้พื้นที่มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ดินมีสภาพอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชทำการเกษตร รวมทั้งส่งเสริมปัจจัยการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และโบราณคดีหลายแห่งที่น่ามาเที่ยวชมศึกษาหาความรู้ อีกทั้งมีสินค้าที่ระลึกประเภทหัตถกรรม และอาหารการกินมากมายเช่นหน่อไม้รวก ข้าวเกรียบปลา ผลไม้แช่อิ่ม ผ้าทอ เครื่องจักสานซึ่งสามารถติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก
กล่าวถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เมืองเพชรบูรณ์นั้นเริ่มจาก ชื่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อครั้งโบราณน่าจะชื่อว่าเมือง “เพชบุระ” ตามที่ปรากฏในจารึกลานทองคำ ที่พบจากเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ วัดมหาธาตุ ซึ่งหมายถึงเมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร แต่ในระยะหลังต่อมาแปรเปลี่ยนเป็น “เพชรบูรณ์” กลายความหมายเป็นเมืองที่อุดมด้วยเพชร และได้นำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัด
อาณาเขต
- ทิศเหนือ : ติดต่อกับ จังหวัดเลย
- ทิศใต้ : ติดต่อกับ จังหวัดลพบุรี
- ทิศตะวันออก : ติดต่อกับ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ
- ทิศตะวันตก : ติดต่อกับ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร
ดาวน์โหลดโมบายแอพ Go! เพชรบูรณ์
แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์
หมวดหมู่สถานที่น่าสนใจในจังหวัดเพชรบูรณ์
ทริปท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์
โปรแกรมท่องเที่ยวแนะนำ
เที่ยวเพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืน
วันที่ 1
สำหรับทริปสามวันสองคืน วันแรกเราแนะนำให้ออกเดินทางกันแต่เช้า ไม่เกิน 9.00 น. ตื่นแต่เช้ามารับประทานอาหารแล้วมุ่งตรงสู่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปเช็คอินที่พักสวยๆ บรรยากาศดีที่เดอะบลูสกาย เขาค้อ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางถ้าหิวก็แวะซื้อไก่ย่างวิเชียรบุรีตามข้างทางกินกันในรถ ได้ฟีลสุดๆ แบบนี้เราจะไปถึงที่เดอะบลูสกาย เขาค้อทันเวลาเช็คอินพอดี
เดอะบลูสกาย เขาค้อเป็นที่พักสไตล์ English Country เราจะถูกห้อมล้อมด้วยสวนดอกไม้สวยๆ สุดอลังการ ทั้งดอกบลูซัลเวียที่คล้ายกับดอกลาเวนเดอร์อยู่ทั่วรีสอร์ท ต้นสน อุโมงค์ต้นไม้ ฯลฯ ซึ่งทำให้บรรยากาศของที่นี่ดีมากๆ แตกต่างกับที่พักอื่นๆ ในเขาค้อ ให้ความรู้สึกเหมือนเที่ยวอยู่ในยุโรปกันเลยทีเดียว
หลักจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็พักรับประทานอาหารกันที่ The Blue Sky Restaurant ซึ่งเป็นร้านอาหารภายในรีสอร์ท ให้บริการทั้งอาหารไทยและอาหารยุโรป มีทั้งหมด 2 ชั้น และมีทั้งโซน indoor และ outdoor ให้เราได้เลือกนั่งกัน เพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหาร และชมวิวสวนสวยสไตล์อังกฤษของรีสอร์ทพร้อมภูเขาผาซ่อนแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวกันหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็ได้รูปถ่ายสวยๆ ลงเฟสบุ๊ค อินสตาแกรมอวดเพื่อนกันอย่างแน่นอน
หลังจากรับประทานอาหารและถ่ายรูปเล่นกันอย่างหนำใจแล้ว พอแดดร่มลมตกเราก็มุ่งหน้าออกไปยัง “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เพื่อไปไหว้พระเสริมสิริมงคลพร้อมเอาฤกษ์เอาชัยให้เดินทางอย่างปลอดภัย เที่ยวสนุกตลอดทั้งทริป วัดแห่งนี้เป็นวัดชื่อดังในเขาค้อ อยู่ห่างจากรีสอร์ทเพียงแค่ 20 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
แต่ก่อนจะไปถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เราจะผ่าน “ร้าน Pino Latte Café” กันก่อน เราแนะนำให้เพื่อนๆ แวะไปทานเค้ก ทานขนม จิบเครื่องดื่มเย็นๆ กัน เพราะนอกจากความอร่อยของเหล่าเบเกอรี่และเครื่องดื่มแล้ว ที่ Pino Latte Café ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของเขาค้อ ใครไปเขาค้อก็ต้องห้ามพลาด อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วได้ด้วย เพราะอยู่ห่างกันแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้น
เมื่อเสร็จจากร้าน Pino Latte Café ก็ขับรถมาต่อกันที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นวัดสวยในเขาค้อ จะบอกว่าเป็นแลนด์มาร์คของเขาค้อเลยก็ว่าได้ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ โดดเด่นด้วยมหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ซึ่งสูงถึง 45 เมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น ชั้น 1 และ 2 เป็นที่พักของผู้เข้าปฏิบัติธรรม ส่วนบริเวณอื่นๆ เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา อีกทั้งยังมีศาลาพระหยกเขียว ศาลาปฏิบัติธรรมที่ล้อมรอบไปด้วยบานกระจกขนาดใหญ่ มีศิลปะลายไทยที่วิจิตรงดงามตระการตาให้เราได้แวะไปชม ปฏิบัติธรรม และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดกัน แถมที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อด้วย
เมื่อไหว้พระเสร็จแล้วก็กลับมายังรีสอร์ทเพื่อเตรียมตัวดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลและโรแมนติกกัน จะเลือกไปนั่งรับประทานที่ The Blue Sky Restaurant หรือจะทานที่ริมระเบียงห้องก็ตามแต่ต้องการเลย จากนั้นเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมตัวตื่นแต่เช้าไปชมทะเลหมอกเขาค้อกัน
วันที่ 2
เช้าวันที่สองของทริปสามวันสองคืน เราขอให้เพื่อนๆ ตื่นกันแต่เช้า รับประทานอาหารเช้า แวะถ่ายรูปสวยๆ ในรีสอร์ท แล้วเช็คเอ้าท์จากที่พักพร้อมออกเดินทางไปยังจุดชมวิวเขาค้อเพื่อไปชมทะเลหมอกอันแสนสวยกันไม่เกิน 07.30 น. จุดชมวิวเขาค้ออยู่ห่างจากที่พักประมาณ 20 กิโลเมตร เราจะใช้เวลาในการเดินทางไปยังจุดชมวิวไม่เกินครึ่งชั่วโมง
“จุดชมวิวทะเลหมอกเขาค้อ” ตั้งอยู่ใกล้กับไปรษณีย์เขาค้อ เป็นจุดชมทะเลหมอกยอดฮิตของเขาค้อและเพชรบูรณ์ที่ห้ามพลาดไปถ่ายรูปและชมวิวสวยๆ กัน ทะเลหมอกจะมีให้ชมถึงประมาณ 9 โมงเช้า ส่วนที่ใครอยากหาซื้อผักผลไม้ท้องถิ่น อาหาร หรือของที่ระลึกบริเวณนี้ก็มีร้านขายสินค้าให้เราได้เลือกซื้อกลับบ้านด้วยนะ
เมื่อชมวิวทะเลหมอกเสร็จแล้วก็มุ่งตรงต่อไปยัง “ทุ่งกันหันลมเขาค้อ” ซึ่งห่างกันเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น
“น้ำตกศรีดิษฐ์” เป็นน้ำตกหินชั้นเดียวขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลเย็นให้เราได้เที่ยวตลอดทั้งปี เราจะได้เห็นภาพน้ำไหลลงมาคล้ายม่านน้ำ ตกกระทบสู่เบื้องล่างเกิดเป็นภาพที่สวยงาม ใครอยากลงเล่นน้ำก็สามารถทำได้ บริเวณน้ำตกยังมีร้านค้าและร้านอาหารให้เราได้นั่งชิลกันด้วย เล่นน้ำกันเหนื่อยแล้วก็เติมพลังทานอาหารเย็นกันที่นี่ก่อนกลับเข้าไปเช็คอินและพักผ่อนกันที่ “ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ปาร์ค”
เมื่อเสร็จจากการชมวิวที่เขาตะเคียนโง๊ะแล้วก็กลับมาทานอาหารกลางวันกันที่รีสอร์ท บอกเลยว่าอาหารของที่ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ปาร์คเด็ดมาก! โดยเฉพาะเมนูเสต็กที่ขึ้นชื่อของที่นี่
กิจกรรมแอดเวนเจอร์ในรีสอร์ทแห่งนี้ที่เราสามารถเล่นได้ เช่น
- Tower Jump เพื่อนๆ จะได้ดิ่งหอสูง 50 ฟุต แบบเดียวกับบันจี้ จัมพ์ ใครที่ไม่กลัวความสูงบอกเลยว่าต้องไปวัดใจกันดู
- Rock Climbing เป็นการปีนหน้าผาหน้าผาจำลองความสูงกว่า 10.5 เมตร
Canoe Paddle ใครอยากชิลด้วยการพายเรือแคนูในทะเลสาบก็มีให้ทำ - Air Ball ที่ให้เพื่อนๆ ได้กลิ้งอยู่ในลูกบอลที่ล่องลอยกลางน้ำ จะเข้าไปในลูกบอลคนเดียวหรือหลายคนก็ได้
- High Flying ที่พร้อมให้เพื่อนๆ ได้โหนสลิงข้ามทะเลสาบ ระยะทางกว่า 150 เมตร
บอกเลยว่าที่ภูแก้ว รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ปาร์ค มีกิจกรรมสนุกๆ ให้เราได้เล่นกันอย่างหนำใจจริงๆ เครื่องเล่นแต่ละชิ้นมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป แต่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับความสนุกที่เราได้รับ สามารถตรวจสอบราคาได้ที่นี่ และเมื่อสนุกกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ กันได้เลย เป็นอันจบทริปสามวันสองคืนกับเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อย่างฟินๆ เลยล่ะ